ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พลิกร่วงกว่า 100 จุด นักลงทุนยังวิตกสถานการณ์ยูเครน

ออฟไลน์


     
ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พลิกร่วงกว่า 100 จุด นักลงทุนยังวิตกสถานการณ์ยูเครน

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พลิกร่วงกว่า 100 จุด หลังดีดตัวขึ้นในช่วงแรก ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกต่อสถานการณ์ในยูเครน

ณ เวลา 20.43 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 121 จุด หรือ 0.35% สู่ระดับ 34,110 จุด

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 21 ก.พ. เนื่องในวันประธานาธิบดี

ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 600 จุดวานนี้ ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2565 ท่ามกลางความวิตกที่ว่ารัสเซียใกล้บุกโจมตียูเครน

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ จะเจรจาหารือกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ในสัปดาห์หน้า หากรัสเซียไม่ทำการบุกโจมตียูเครน

กองทัพรัสเซียจะทำการซ้อมรบด้วยอาวุธนิวเคลียร์ในวันพรุ่งนี้ โดยจะมีการยิงขีปนาวุธแบบทิ้งตัว (ballistic missile) และขีปนาวุธร่อน (cruise missile) ซึ่งถือเป็นการแสดงแสนยานุภาพทางทหารของรัสเซีย ท่ามกลางช่วงเวลาวิกฤตในความขัดแย้งกับชาติตะวันตกในกรณียูเครน

นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า สถานการณ์ในดอนบาสยังคงน่าเป็นห่วง และอันตรายอย่างมาก

ด้านนายเดนิส พูชิลิน ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ทางตะวันออกของยูเครน ได้สั่งให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวทำการอพยพไปยังรัสเซีย ท่ามกลางการถูกยิงโจมตี

นายพูชิลินกล่าวว่า รัสเซียได้ตกลงที่จะให้ที่พักอาศัยแก่ประชาชนแล้ว โดยผู้ที่เป็นเด็ก สตรี และคนชราควรรีบอพยพก่อน

ทั้งนี้ สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์ตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งกลุ่มกบฎฝักใฝ่รัสเซียยึดครองอยู่

สื่อรายงานว่าเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในดอนบาสและกองกำลังยูเครนวานนี้ ท่ามกลางความกังวลที่ว่ารัสเซียอาจใช้สถานการณ์ดังกล่าวเพื่อเป็นข้ออ้างในการโจมตียูเครน

นายไมเคิล คาร์เพนเตอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำองค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) กล่าวว่า รัสเซียได้เพิ่มกำลังทหารสู่ระดับ 190,000 นายใกล้ชายแดนยูเครนในขณะนี้

"เราประเมินว่ารัสเซียมีกำลังทหารราว 169,000-190,000 นายใกล้ชายแดนยูเครน เมื่อเทียบกับราว 100,000 นายเมื่อวันที่ 30 ม.ค. ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนกำลังทหารครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปของรัสเซียนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2" นายคาร์เพนเตอร์กล่าว