แสดงกระทู้ - Jessicas

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Jessicas

หน้า: [1] 2 3 ... 5
1
ตู้คอนเทนเนอร์ สามารถเอามาปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงเพื่อเหมาะสมตามลักษณะการนำไปใช้งานดังต่อไปนี้

ตู้คอนเทนเนอร์ออฟฟิศ เหมาะกับไซค์การก่อสร้าง ด้วยเหตุว่าความแข็งแรง คงทน ไม่เป็นอันตราย สบายสำหรับการขนส่งโยกย้าย รวมทั้งราคาไม่แพง พร้อมระบบกระแสไฟฟ้าแล้วก็เครื่องปรับอากาศ สินค้ามีสต็อกพร้อมส่ง บริการขนส่งพร้อมยกลงทุกจังหวัด





ร้านกาแฟตู้คอนเทนเนอร์ เป็นกระเเสฮอตฮิตในบ้านเราแล้วก็ต่างชาติ การนำเอาตู้คอนเทนเนอร์ 20,40 ฟุต มาดัดแปลง เจาะ ตัดแต่ง ทำสี วางระบบกระแสไฟฟ้า ติดกระจก และนำตู้มาวางในรูปแบบต่างๆเช่น ทับกัน สลับกัน ไขว้กัน ต่อกัน หรือแบบอื่นๆตามต้องการ ตู้คอนเทนเนอร์ร้านกาแฟ สามารถตอบโจทย์ในเรื่องความคุ้มค่า และความสวย จากลักษณะดิบๆของตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมบรรยากาศร้านค้างามๆบวกกับรสชาดิกาแฟหอมกรุ่น มั่นใจว่าคนไม่น้อยต้องชอบบรรยากาศอย่างนี้

บ้านตู้คอนเทนเนอร์ ด้วยรูปแบบและความแข็งแรงของตู้คอนเทนเนอร์ เราสามารถเอามาปรับเปลี่ยนเป็นที่พัก ห้องพักแล้วก็โรงแรม โดยการนำตู้คอนเทนเนอร์มาตัดปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงทำสีและก็เพิ่มห้องสุขา เป็นตู้คอนเทนเนอร์บ้าน สามารถทำให้สามารถยกลงไปวางในพื้นที่ได้ทันที





บริษัท คอนเทนเนอร์โชว์เคส จำกัด ผู้ผลิตรวมทั้งจัดจำหน่าย ตู้คอนเทนเนอร์ จากสายเรือโดยตรงบริการตู้คอนเทนเนอร์มือสองสภาพดีตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลงในแบบ ออฟฟิศ สำนักงาน บ้าน ร้านกาแฟ รีสอร์ท ห้องพัก โฮเต็ล ห้องอาบน้ำ ตู้ยามสโตร์ และตู้ประกอบใหม่แบบสำเร็จรูปและตู้น็อคดาวน์สามารถถอดประกอบ ขยายแล้วก็พับเก็บได้

พวกเรามีโรงงานพร้อมโชว์รูมผลิตภัณฑ์ที่ท่านลูกค้าสามารถให้เข้าดูเลือกชมผลิตภัณฑ์ ได้ก่อนสั่งซื้อ พร้อมสต็อกพร้อมขาย บริการดีไซน์ สำรวจพื้นที่ ตัดแต่ง ทำสี ขนส่งแล้วก็จัดตั้งพร้อมบริการหลังการขาย คอนเทนเนอร์โชว์เคส เราตั้งใจจริงผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ไม่คดโกง ตามเวลา เพื่อให้เกิดความพอใจกับลูกค้า ด้วยประสบการณ์มากยิ่งกว่า 10 ปีในธุรกิจตู้คอนเทนเนอร์ เราสัญญาจะปรับปรุงสินค้าและบริการด้วยมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้นไป



2
จำหน่าย พื้นยางฟิตเนส หรือ ยางพื้นปูฟิตเนส ที่ใช้สำหรับภายในบ้านและภายในยิม

พื้นยางฟิตเนส นำเข้าจากต่างประเทศคุณภาพดีและได้มาตราฐาน ยางเป็นแบบ EDMP 25 mm ไม่มีกลิ่นเหม็นสามารถใช้ได้ทั้งภายในบ้านและภายในยิม

Facebook : CCT Fitness นำเข้าเครื่องออกกำลังกาย
Tel: 089-750-7380
สนใจชมตัวอย่างสินค้า >> https://goo.gl/maps/RBNaNTLmk8LD3T2A8 

3
ผู้ปกครองชาวฮ่องกงเร่งพาบุตรหลานฉีดวัคซีน หลังโควิดระบาดหนัก

ผู้ปกครองชาวฮ่องกงเร่งพาบุตรหลานอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปเข้ารับการฉีดวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนในสัปดาห์นี้ หลังรัฐบาลได้ปรับลดเกณฑ์อายุการฉีดวัคซีนลง และข่าวการเสียชีวิตของเด็กวัย 3 ขวบ และ 4 ขวบที่ติดเชื้อโควิด-19 ในฮ่องกงยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลแก่ประชาชน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลฮ่องกงได้อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทซิโนแวคในกลุ่มเด็กที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. ขณะที่เด็กอายุ 5 ปีขึ้นไปสามารถรับวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์/ไบออนเทคได้ โดยมาตรการดังกล่าวมีขึ้นเนื่องจากฮ่องกงพบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 60 เท่า นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.

ทั้งนี้ ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนในเขตนิวเทอร์ริทอรีส์ พบประชาชนต่อคิวกันอย่างหนาแน่นตั้งแต่ช่วงเช้า ผู้ปกครองและบุตรหลานต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เปียกแฉะและมีลมแรงก่อนที่จะเข้าไปฉีดวัคซีนได้

4
ผลน้ำมันแพงนี้กระทบต่อเงินลงทุนการผลิตและบริการหลากหลายชนิดให้ผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคแพงตามล้วนเป็นค่าใช้จ่ายครอบครัวตอกย้ำค่ายังชีพสูงมากขึ้นในสมัยโรคระบาดกระทบเป็นวงกว้างให้สามัญชนตกที่นั่งลำบากหนักขึ้น

5
WHO แนะลดเวลากักตัวโควิด หวังลดภาระพื้นที่ระบาดหนัก

องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกคำแนะนำใหม่สำหรับประเทศที่กำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้น โดยอาจร่นระยะเวลากักตัวลงเหลือ 14 วันในบางกรณี โดยแนวทางใหม่นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับประเทศที่บริการด้านสาธารณสุขต้องรับแรงกดดันหนัก

ทั้งนี้ WHO ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า การกักตัวอาจลดลงมาอยู่ที่ 10 วันหากไม่มีการตรวจหาเชื้อ และเหลือ 7 วันหากมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ หากบุคคลไม่แสดงอาการของโรค

ส่วนในกรณีที่ไม่สามารถตรวจหาเชื้อเพื่อลดระยะเวลากักตัวได้นั้น อาจใช้เกณฑ์ที่ว่า หากบุคคลไม่แสดงอาการก็อาจไม่ต้องตรวจหาเชื้อ

ในทำนองเดียวกัน ประเทศต่าง ๆ อาจพิจารณาให้ผ่อนคลายมาตรการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดได้เช่นกัน

สำหรับผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ หรือมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ที่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยขั้นรุนแรง หรือผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ควรให้ความสำคัญกับคนกลุ่มนี้เป็นอันดับแรก

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บางประเทศ เช่น สหรัฐ เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ได้ลดระยะเวลากักตัวลง เพื่อรับมือกับการระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน

 

6
'ไบเดน' ยันไม่มีแผนเจรจา 'ปูติน' ปลดชนวนสงครามยูเครน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวยืนยันว่า เขาไม่มีแผนที่จะสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์ในยูเครน แม้มีความกังวลว่ารัสเซียอาจทำการโจมตียูเครนในไม่ช้า

ปธน.ไบเดนกล่าวว่า ขณะนี้มีความเสี่ยงสูงมากที่รัสเซียจะทำการโจมตียูเครน และสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในอีกเพียงไม่กี่วัน

'รัสเซียยังคงส่งกำลังทหารประชิดชายแดนยูเครน และเรามีเหตุผลที่จะเชื่อว่าพวกเขากำลังจัดฉากเพื่อหาเหตุโจมตียูเครน' ปธน.ไบเดนกล่าวต่อผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว

อย่างไรก็ดี ปธน.ไบเดนกล่าวว่า ขณะนี้ยังคงมีช่องทางการทูตที่จะผ่อนคลายวิกฤตการณ์ดังกล่าว โดยนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ จะเปิดเผยแนวทางดังกล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ในวันนี้

ทางด้านนางลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า นายบลิงเกนจะกล่าวถึงสถานการณ์ในยูเครนที่กำลังน่าวิตกในขณะนี้

'มีหลักฐานว่ารัสเซียกำลังใกล้โจมตียูเครน นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญมาก และนี่เป็นเหตุผลที่ท่านรัฐมนตรีบลิงเกนได้เดินทางมายังนิวยอร์กเพื่อยืนยันถึงการใช้แนวทางการทูตของเราเพื่อผ่อนคลายวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น และบอกให้โลกรับรู้ว่าเราจะทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันสงคราม' นางโทมัส-กรีนฟิลด์กล่าว

ทั้งนี้ ความตึงเครียดในวิกฤตการณ์ยูเครนได้ทวีมากขึ้น ขณะที่มีความกังวลว่ารัสเซียกำลังใช้เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกองกำลังยูเครนและกลุ่มกบฎฝักใฝ่รัสเซียในภูมิภาคดอนบาส เป็นข้ออ้างในการโจมตียูเครน

นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า รัสเซียมีความกังวลและกำลังจับตาสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในภูมิภาคดอนบาส หลังจากมีรายงานการปะทะกันระหว่างกองกำลังยูเครนและกลุ่มกบฎฝักใฝ่รัสเซียในภูมิภาคดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว RIA ของทางการรัสเซียรายงานว่า กองทัพยูเครนได้โจมตีกลุ่มกบฏในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งถือเป็นเขตหยุดยิงตามข้อตกลงมินสก์

ทางด้านกองทัพยูเครนได้ปฏิเสธข่าวดังกล่าว ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงว่า กลุ่มกบฎฝักใฝ่รัสเซียในดอนบาสได้โจมตีหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนของประชาชน

'เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายประณามการที่รัสเซียละเมิดข้อตกลงมินสก์ ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีความตึงเครียดในขณะนี้' แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศยูเครนระบุ

ทางด้านสหรัฐระบุเตือนว่า รัสเซียกำลังหาเหตุและจัดฉากเพื่อสร้างเงื่อนไขในการโจมตียูเครนได้ทุกขณะ

สภาดูมา ซึ่งเป็นสภาผู้แทนราษฎรรัสเซีย ได้ให้การอนุมัติก่อนหน้านี้ต่อร่างกฎหมายรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ฝักใฝ่รัสเซีย

นายยาเชสลาฟ โวโลดิน ประธานสภาดูมา กล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะถูกส่งต่อไปยังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินโดยทันทีเพื่อลงนามเป็นกฎหมาย ซึ่งจะเป็นการรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระและมีอธิปไตยของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์

'ยูเครนไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงมินสก์ ขณะที่ประชาชนของเราที่อยู่ในดอนบาสจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ และปกป้องจากภัยคุกคามจากภายนอก รวมทั้งจะเป็นการสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค' นายโวโลดินกล่าว
อย่างไรก็ดี หากปธน.ปูตินให้การรับรองกฎหมายดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ก็จะเป็นการสร้างความขัดแย้งครั้งใหม่ต่อวิกฤตการณ์ในยูเครน เนื่องจากการรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์ จะถือเป็นการฉีกข้อตกลงมินสก์ ซึ่งมีเป้าหมายในการยุติสงครามแบ่งแยกดินแดนในดอนบาส หลังจากที่ได้คร่าชีวิตของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนและกองกำลังยูเครนถึง 15,000 คน

7
จากรายงานของ Rocket Media Lab ในปี 2021 คนกรุงเทพฯ สูดเอาฝุ่น PM 2.5 เข้าไป เท่ากับปริมาณการสูบบุหรี่ถึง 1,261 มวนต่อคน เป็นที่รู้กันดีว่า ฝุ่น PM 2.5 คือ ฝุ่นพิษที่มีลักษณะเป็นฝุ่นละอองเล็กๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน

ซึ่งความอันตรายของ PM 2.5 ที่นอกจากจะมีขนาดเล็กจนสามารถผ่านการกรองของขนจมูกผ่านหลอดลมไปจนถึงถุงลมปอด แล้ว PM 2.5 ยังสามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือด และสร้างผลร้ายให้กับร่างกายมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการระคายเคืองเยื่อบุต่างๆ ทำให้เรามีอาการแสบจมูก แสบตา เจ็บคอแล้ว ในผู้ที่มีโรคภูมิแพ้ โรคทางเดินหายใจเจ้า PM 2.5 จะเป็นตัวกระตุ้นให้อาการของโรคกำเริบได้ง่าย และนอกจากนี้ PM 2.5 ยังก่อให้เกิดอาหารระคายเคืองบนผิวหนัง เป็นผื่น คัน รวมถึงทำให้เกิดสิว และยังมีผลเสียอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเจ้าฝุ่นพิษ PM 2.5 ยังคงวนเวียนอยู่รอบตัวเราตลอดเวลา แต่เราสามารถกำจัดเจ้าฝุ่นตัวร้ายได้ชั่วคราวด้วยการใช้เครื่องฟอกอากาศ แต่เครื่องฟอกอาการชนิดไหนที่สามารถจัดการกับ PM 2.5 ได้บ้าง มาดูกันค่ะ



1. เครื่องกรองอากาศที่มีแผ่นกรองอากาศ HEPA
แผ่นกรองอากาศ HEPA (High Efficiency Particulate Air Filter) เป็นแผ่นกรองอากาศที่ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพสูง ผลิตจากเส้นใยไฟเบอร์กลาส มีคุณสมบัติในการดักจับฝุ่นละออง หรืออนุภาคที่มีใหญ่กว่า 0.3 ไมครอน ขึ้นไป และแน่นอนว่าสามารถดักจับฝุ่น PM 2.5 ที่มีขนาด 2.5 ไมครอนได้ อย่างเช่นใน เครื่องฟอกอากาศ philips ที่มีแผ่นกรอง HEPA สามารถดักจับฝุ่น PM 2.5 เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ แบคทีเรีย และไวรัส ได้สูงถึง 99.9%  พร้อมโหมดฟอกอากาศอัตโนมัติแบบอัจฉริยะ ที่ฟอกอากาศได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

2. ค่า CADR ยิ่งสูงยิ่งดี
CADR (Clean Air Delivery Rate) หรือ ค่าตัวเลขที่ได้จากการวัดปริมาณอากาศดี ที่ระบบฟอกอากาศสามารถฟอกเอาสิ่งปนเปื้อน อย่าง PM 2.5 ควันบุหรี่ เกสรดอกไม้ ฯลฯ ออกไปได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ยิ่งค่า CADR สูงเท่าไหร่ ก็หมายความว่าประสิทธิภาพในการฟอกอากาศของเครื่องฟอกอากาศยิ่งดีขึ้นเท่าไหร่นั้น

3. ระดับเสียง ไม่ควรเกิน 30-35 เดซิเบล
ยิ่งทำงานเงียบ ยิ่งดี ทั้งนี้เพราะเสียงเครื่องฟอกอากาศที่ดังเวลาใช้งาน ก็เป็นสิ่งกวนใจ และรบกวนการนอนหลับอยู่ไม่น้อย 



4. มีระบบฆ่าเชื้อช่วยเพิ่มความปลอดภัย
เป็นอีกฟังก์ชั่นที่ไม่ควรมองข้ามในยุคโควิด-19 เนื่องจากนอกจากจะช่วยให้เราปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5 แล้ว ระบบฆ่าเชื้อจะช่วยให้เราห่างไกลจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรียต่างๆ อย่าง เครื่องฟอกอากาศ sharp ที่นอกจากจะสามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้แล้ว ยังมีเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ เอกสิทธิ์แบบเฉพาะของ Sharp ปล่อยประจุบวกและลบ เพื่อกำจัดสิ่งปนเปื้อนในอากาศ เชื้อรา แบคทีเรีย และเชื้อไวรัส รวมถึงกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย



5. ระบบเซ็นเซอร์ช่วยตรวจจับอนุภาคในอากาศ
เป็นอีกระบบที่เครื่องฟอกอากาศหลายยี่ห้อเลือกที่จะใส่เพิ่มเข้ามาเพื่อตรวจจับฝุ่นละออง และอนุภาคแปลกปลอมที่ลอยอยู่ในอากาศเพื่อให้ทั้งห้องของเรามีอากาศที่สะอาดและมีสิ่งปนเปื้อนให้น้อยที่สุด ซึ่ง เครื่องฟอกอากาศ xiaomi มี PM Laser เป็นเซ็นเซอร์ที่ดักจับอนุภาคของฝุ่นขนาดเล็กได้แม่นยำสูงช่วยแจ้งค่า PM แสดงผลมาที่หน้าจอเพื่อให้รู้ว่าอากาศสะอาดพอหรือไม่ และยังสามารถควบคุมการใช้งานเครื่องฟอกอาการผ่านแอพพลิเคชั่น Mi Home บนสมาร์ทโฟนได้ด้วย

แม้ว่าเราจะควบคุมปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ลอยอยู่ทั่วไปไม่ได้ แต่ภายในบ้านของเรา เราสามารถเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศเป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพของเราและคนที่เรารัก เพียงมีเครื่องฟอกอากาศดีๆ สักเครื่อง เพื่อให้เราได้สูดอากาศที่สะอาด ก็นับได้ว่าเป็นความคุ้มค่าที่น่าลงทุนไม่น้อยเลยนะคะ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP02

8
Cosmos Handmade รองเท้าที่ทำด้วยมือทุกคู่ กับตำนาน 24 ปีของแบรนด์
cosmos

ย้อนกลับไปเมื่อ 24 ปีที่ผ่านมา Cosmos Handmade ร้านรองเท้าหนังเล็กๆธุรกิจของคุณเจนและก็ครอบครัว ได้เปิดให้บริการทุกคนด้วยรองเท้าหนังคุณภาพดีที่สวมง่ายใส่สบาย คุณเจนเล่าว่าแต่ก่อนที่ร้านค้าย้ำซ่อมรองเท้าเพื่อค้าส่งที่ห้าง MBK Center โดยมีกรุ๊ปลูกค้าหลักเป็นนักท่องเที่ยวฝรั่งจากทั่วสารทิศ ไม่ว่าจะเป็น ชาวอาหรับ ประเทศอินเดีย รวมไปถึงลูกค้าจากฝั่งโซนยุโรป รองเท้าที่ทำด้วยมือ

“รองเท้าร้านค้าพวกเราทำด้วยมือทุกคู่ เราแน่ใจว่ารองเท้าเราใส่สบาย ไซส์มาก และก็อยากที่จะให้ลูปค้าทุกคนแฮปปี้ที่สุด”

รองเท้าของคุณเจนเป็นรองเท้าหนังแท้ ที่คุณเจนแล้วก็ครอบครัวตั้งอกตั้งใจทำทุกขั้นตอนจนได้มาเป็นรองเท้าหนึ่งคู่ เริ่มตั้งแต่การออกแบบรองเท้าให้สวมง่ายใส่สบาย แต่ว่าก็ควรจะมีสไตล์แล้วก็ดูดีมีสไตล์ในขณะเดียวกัน ลงมือหาอะไหล่รองเท้าที่ดีที่สุด ผิดแผกแตกต่างที่สุด ทำให้คนไม่ใช่น้อยที่เคยได้ทดลองซื้อก็ชอบใจรวมทั้งกลับมาซื้อกันเป็นแถบ จนตราบเท่าช่วง Covid-19 ที่ระบาดในประเทศตอนมีนาคมเมื่อปีที่แล้ว ธุรกิจร้านค้ารองเท้าของเจนก็เปลี่ยนไป จากหน้ามือเป็นหลังมือ… รองเท้าที่ทำด้วยมือ


จากค้าส่งตามร้านในห้าง มียอดขายจากต่างประเทศเข้ามาแทบจะต่อเนื่อง กลายเป็นยอดตก ขายไม่ได้เนื่องจากผลจากวัววิด คุณเจนรวมทั้งครอบครัวจำเป็นต้องพบกับปัญหาอย่างหนักเมื่อลูกค้าเริ่มน้อยลงไปเรื่อยๆทำให้เจนตกลงใจครั้งใหญ่ที่เป็นตัวระบุชีวิตของร้านที่มีมามากกว่า 20 ปี นั่นก็คือ “แนวทางการทำตลาดออนไลน์” ดูเหมือนจะง่าย แต่สำหรับเจนไม่ง่ายเลย ด้วยเหตุว่าคราวก่อนเพียงแค่ส่งตามห้างรายได้ก็ล้นมือ จนมิได้คิดหัวข้อการทำร้านออนไลน์ เรื่องนี้ก็เลยเปลี่ยนเป็นเรื่องใหญ่ รวมทั้ง ใหม่มากๆสำหรับเธอ ดังเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกที



“ทีแรกๆพวกเราก็หนักใจว่าผลิตภัณฑ์ของเราจะเป็นที่ชอบใจของลูกค้าหรือไม่ แต่พอใช้เริ่มลงมือ ก็ได้รับผลตอบรับดีเลิศๆด้วยดีไซน์ ทรงรองเท้าและขนาดรองเท้าที่ครอบคลุมไปถึงเบอร์ 48 หรือ 49 ทำให้เป็นที่พึงพอใจของลูกค้า มีลูกค้าที่สั่งไปแล้วกลับมาซื้อเพิ่มเรื่อยๆ” รองเท้าที่ทำด้วยมือ

สิ่งที่ทำให้ Cosmos Handmade ไม่ซ้ำใคร คือเรื่องของคุณภาพ ความเอาใจใส่ในการตัดเย็บรองเท้าแบบคู่ต่อคู่ มีไซส์ที่ครอบคลุม ขนาดเป๊ะ ตรงปก และที่สำคัญความนุ่มสบายที่มาพร้อมทั้งวางแบบที่ทันสมัยเข้ากับทุกจังหวะ ช่วงนี้ลูกค้าของที่ร้านมีทั้งคนไทยรวมทั้งคนประเทศอื่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ทำให้ความวิตกกังวลในตอนแรกก็เริ่มคลายลง รวมทั้งเปลี่ยนเป็นความแน่ใจมากขึ้น ท่ามกลางความยุ่งยากของเหตุการณ์ที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว รวมทั้งความคิดของแต่ละคนในครอบครัวยังติดภาพจำแนวทางการขายแบบส่งที่ทำมาโดยตลอดหลายปี แต่ว่าในที่สุดมุมมองความนึกคิดการขายก็แปรไป และก็ก้าวผ่านจุดนั้น เอาชนะความกลัว สู้ด้วยความกล้าหาญ แล้วก็ลงมือกระทำออนไลน์เอาจริงเอาจัง รองเท้าที่ทำด้วยมือ

ด้วยการให้ความสนใจลงมือกระทำทุกขั้นตอน ตอนนี้ร้านค้ารองเท้าของเจนมีรองเท้าให้เลือกกว่า 20 รุ่น อีกทั้งชายรวมทั้งหญิง หลายทรงหลายดีไซน์ แม้กระนั้นถ้าเลือกไม่ได้ เราขอเสนอแนะ 3 รุ่นนี้ที่คนไหนกันแน่ลองก็จะต้องพึงใจ

London Snaff


เป็นรองเท้าโลฟเฟอร์ที่ทำมาจากหนังวัว Full gain ชนิด Premium Brush Off Leather เป็นงาน Handmade ทั้งสอง ทำให้มองเห็นสีชำเลืองเป็นเอกลักษณ์จากการขัดในแต่ละคู่จะไม่เหมือนกัน เนื่องมาจากเป็นงานขัดด้วยมือ รุ่นนี้ออกแบบทรงรองเท้ามาให้สามารถใส่ได้ทุกคน โดยมีไซส์เริ่มตั้งแต่ 36-48 และก็เป็นทรงเก็บหน้าเท้าจะมีผลให้เวลาใส่จะมองเท้าไม่กว้าง สำหรับคนเท้ากว้างก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวล สามารถใส่ได้แน่นอน นอกเหนือจากนี้ ทางร้านยังดีไซน์เพิ่มความอ่อนนุ่มในส่วนของพื้นด้านใน และก็ใช้หนังพิเศษตรงตอนส้นเท้าข้างหลังเพื่อลดการเสียดสีระหว่างเท้าและรองเท้า ซึ่งเป็นสาเหตุของรองเท้ากัดอีกด้วย พื้นรองเท้าใช้พื้นขัดลายไม้ นอกเหนือจากลวดลายที่สวยแล้ว ยังช่วยเหลือกันลื่นได้ด้วย และที่สำคัญ สินค้าของร้านค้าเป็นงานเย็บพื้นจริงทุกคู่ มีด้วยกันสามสีเป็น สีดำ สีน้ำตาล และก็ สีกรม

Leather Drive London


รองเท้าทรงมอคคาสินเป็นงานแฮนด์เมดโดยช่างผู้ที่มีความเชี่ยวชาญชาวไทยเราเช่นเดียวกัน มีไซส์ตั้งแต่ไซส์ 38-46 รุ่นนี้ด้านนอกทำจากหนังวัวประเภท Full Gain Leather และก็ด้านในใช้หนังลูกวัวจำพวกชามัวร์ นุ่ม สวมใส่สบายมากมายๆและก็ด้านหลังช่วงส้นตีนพวกเรายังคงพิจารณาถึงผู้ใส่และใช้หนังแบบพิเศษเพื่อลดการเสียดสีระหว่างเท้าและก็รองเท้า ในส่วนของพื้นรองเท้าเราใช้พื้นยาง รวมทั้งเย็บพื้นจริงทุกคู่ มีด้วยกันสามสีเป็น สีดำ สีน้ำตาล และสีกรม

Tasseled Mules


รองเท้า Loafers แบบเปิดส้น ข้างนอกทำจากหนังวัว Full Gain ข้างในใช้หนังลูกวัว ชนิดชามัวร์ มีด้วยกันสองสีเป็น สีดำ สีน้ำตาล มีไซส์เริ่มต้นที่ 38 ไปจนกระทั่ง 48

จนกระทั่งบัดนี้ Cosmos Handmade เริ่มจับหลักตลาดออนไลน์ได้แล้ว นับว่าเป็นความเพียรพยายามที่เบาๆลองถูกลองผิดแม้กระนั้นก็ผ่านมาจนได้ มีทั้งยัง 4 หนทาง ทั้ง

Facebook > www.facebook.com/cosmoshandmade.shoes

Instagram > ​​https://www.instagram.com/cosmos.handmade/

Line Shopping > https://shop.line.me/@cosmos.th

Shopee > COSMOS Official

อ่านเรื่องอื่นๆพอดี CLEO Thailand แล้วก็ FB > CLEO

https://bit.ly/3oZgZ81

9
SMPC ตั้งเป้ายอดขายปี 65 โต 10-15% จากออเดอร์ถังแก๊สดีต่อเนื่อง-ขยายตลาดใหม่

นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข กรรมการผู้จัดการ บมจ.สหมิตรถังแก๊ส (SMPC) เปิดเผยว่า บริษัทคาดยอดขายปี 65 จะเติบโต 10-15% จากปี 64 โดยตั้งเป้าขายถังแก๊สไว้ที่ 8 ล้านใบ ขณะเดียวกันก็มีแผนขยายตลาดใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น ในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งจะมีการเปิดประมูลเร็วๆ นี้ โดย SMPC มีความพร้อมในการเข้าประมูลงานดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีประเทศในแถบแอฟริกาที่ยังมีโอกาสการเติบโตอีกมาก ขณะที่ตลาด CLMV ก็มียอดขายดีขึ้นเช่นกัน และในปีนี้ตลาดตะวันออกกลางเป็นตลาดที่น่าสนใจ จากการที่รัฐบาลไทยและซาอุดิอารเบียจะมีการจับมือ Business Matching ซึ่งเป็นผลดีต่อ SMPC ที่จะรุกตลาดตะวันออกกลางมากขึ้น และในช่วงไตรมาส 1/65 บริษัทได้งานประมูลถังในประเทศ เข้ามาเสริมมูลค่า Backlog

"ภาพรวมความต้องการถังแก๊สเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งสถานการณ์โควิดสายพันธุ์โอมิครอนยังคงระบาดอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ประชาชนอยู่บ้านมากขึ้น หรือการทำงานจากบ้าน (Work from Home) จึงมีการทำอาหารรับประทานเอง ส่งผลให้ออเดอร์ถังแก๊สยังคงดีต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทฯ ได้มีการขยายกำลังการผลิตถังแก๊สขนาดใหญ่ และถังสามส่วนเพิ่มมากขึ้น พร้อมรองรับความต้องการของตลาด ส่วนถังแก๊สปกติกำลังการผลิตเดินเครื่องเต็มกำลังจากออเดอร์ที่เข้ามาต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าปี 2565 บริษัทฯ จะยังมียอดขายที่เติบโตได้กว่า 10-15% ส่วนเรื่องการขนส่ง และราคาเหล็กก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม และบริหารจัดการอย่างใกล้ชิด ซึ่งบริษัทฯ มีแผนบริหารและการรับมือแล้ว เพื่อรักษาอัตรากำไรให้อยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงยึดแนวทางการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีการปรับปรุงกระบวนการผลิต พร้อมทั้งวิจัยและพัฒนากระบวนการผลิต โดยการคิดค้นและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การควบคุมคุณภาพให้คงที่ การบริหารต้นทุนให้ต่ำลง และการประหยัดพลังงานให้มากที่สุด เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน" นายสุรศักดิ์ กล่าว

ด้านผลประกอบการปี 64 บริษัทฯ มียอดขายรวมอยู่ที่ 4,550.35 ล้านบาท โดยยอดขายเพิ่มขึ้น 576.97 ล้านบาท หรือ 14.5% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 3,973.38 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิงวดปี 64 อยู่ที่ 727.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.07 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.6% จากงวดปี 63 ที่มีกำไร 618.71 ล้านบาท สาเหตุที่ยอดขายและกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยสูงขึ้นจากการปรับราคาขายเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับราคาเหล็กที่เพิ่มขึ้นตามราคาตลาดโลก และสัดส่วนการขายถังสามส่วนที่ราคาสูงเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปริมาณการขายปี 64 ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า เนื่องจากผลกระทบจากปัญหาระวางเรือขาดแคลนทำให้เป็นอุปสรรคต่อการส่งออก เป็นผลให้สินค้าสำเร็จรูปปลายงวดคงเหลือเพิ่มขึ้น ในขณะที่ความต้องการใช้ถังแก๊สยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะลูกค้าในแถบทวีปอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ค่าเงินบาทต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและยูโร ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องทำให้ SMPC ในฐานะผู้ส่งออกได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าว

"ผลประกอบการออกมาเป็นที่น่าประทับใจนิวไฮทั้งรายได้และกำไรสุทธิ โดยกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 123.98 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.8% จาก 970.08 ล้านบาท เป็น 1,094.06 ล้านบาท ในขณะเดียวกันมีอัตรากำไรขั้นต้น ที่ 24% ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 24.4% เป็นผลจากราคาเหล็กในตลาดโลกเพิ่มขึ้น" นายสุรศักดิ์ กล่าว

10
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือ บมจ. ศักดิ์สยามลิสซิ่ง ส่งเสริมความรู้ทางการเงิน
 
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ บมจ. ศักดิ์สยามลิสซิ่ง ส่งเสริมความรู้ทางการเงินเพื่อสร้างวัฒนธรรมการออมแก่บุคลากรในองค์กรที่มีกว่า 2,000 คน เรียนรู้ผ่าน SET e-Learning ครอบคลุมหลักสูตรด้านวางแผนการเงินและการลงทุน พร้อมจัดอบรมโครงการ "Happy Money พี่เลี้ยงการเงิน" แก่หัวหน้างานและผู้จัดการสาขาทุกภูมิภาคจำนวน 66 คน เพื่อเรียนรู้การวางแผนการเงินอย่างเป็นระบบและสามารถส่งต่อความรู้ไปยังพนักงานและคนรอบข้างได้ โดยมี จินตนา บุญสาลี กรรมการ บมจ. ศักดิ์สยามลิสซิ่ง และพรรณวดี ลดาวัลย์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมเปิดการอบรมเมื่อ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา องค์กรที่สนใจส่งเสริมความรู้ด้านการเงินกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ดูรายละเอียดที่ www.set.or.th/happymoney

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดบวก รับความหวังสหรัฐ-รัสเซียหันหน้าเจรจา
 
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ โดยยังได้รับแรงหนุนจากรายงานผลประกอบการแข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป นอกจากนี้ ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและรัสเซียในประเด็นยังมีแนวโน้มคลี่คลายลง หลังกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียยินยอมที่จะพบกับนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เพื่อเจรจาในยุโรปในสัปดาห์หน้า
ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดที่ระดับ 464.64 จุด เพิ่มขึ้น 0.09 จุด หรือ +0.02%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดตลาดวันนี้ที่ 15,278.66 จุด เพิ่มขึ้น 11.03 จุด หรือ +0.07% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดตลาดวันนี้ที่ 6,951.83 จุด เพิ่มขึ้น 5.01 จุด หรือ +0.07%

11
TPCH เป้าปี 65 โต 30-40% ตาม COD เพิ่ม-โรงไฟฟ้าขยะ,มุ่งเป้า 250 MW ในปี 66

นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 65 บริษัทเตรียมที่จะจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล แม่ลาน กำลังการผลิตรับซื้อไม่เกิน 2.85 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล บันนังสตา กำลังการผลิตรับซื้อไม่เกิน 2.85 เมกะวัตต์ พร้อมทั้ง มองหาโอกาสการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัทและผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว

"โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง แม่ลาน และ บันนังสตา ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก และคาดว่าจะสามารถ COD ได้ภายในไตรมาส 2/65 ขณะเดียวกัน TPCH จะทยอยรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าขยะ สยาม พาวเวอร์ (SP) มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 8 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตติดตั้ง 9.5 เมกะวัตต์ ที่ COD ไปเรียบร้อยแล้ว รวมถึง การรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าชีวมวลเดิมอีก 10 แห่ง ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 106.8 เมกะวัตต์ จึงมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนผลงานในปีนี้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่ 30-40% ได้" นางกนกทิพย์กล่าว
ด้านนายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ TPCH กล่าวว่า บริษัทกำลังพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอีกประมาณ 4-6 แห่ง ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทมีความสนใจเข้าลงทุนในโครงการของภาครัฐ โดยเฉพาะการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขยะและโรงไฟฟ้าชุมชนเพิ่มเติม ตามแผน PDP 2022 ฉบับใหม่ เพื่อเป้าหมายการมีกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าขยะ 50 เมกะวัตต์ และเป้าหมายการมีกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าประเภทชีวมวล ชีวภาพ ขนาด 200 เมกะวัตต์ และจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมของทุกประเภทอยู่ที่ 250 เมกะวัตต์ภายในปี 66 อีกทั้ง บริษัท ได้เข้าศึกษาธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก

"ปัจจุบันบริษัทให้ความสำคัญและอยู่ระหว่างการศึกษานโยบายการขับเคลื่อน BCG (Bio-Circular-Green Economy) ของภาครัฐที่ได้ระบุให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยประกอบไปด้วย Bio-economy หรือเศรษฐกิจชีวภาพ ที่เน้นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพอย่างคุ้มค่าโดยใช้เทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้มีมูลค่าสูงสุด Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่เน้นการใช้ทรัพยากรให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด (Reuse Recycle Zero-waste) และ Green Economy หรือเศรษฐกิจสีเขียวที่มุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อโลกอย่างยั่งยืน บริษัทได้มีการศึกษาร่วมกับสถาบันวิจัย และได้มีการลงทุนในธุรกิจที่ก่อให้เกิดรายได้ที่ต่อยอดจากโครงการโรงไฟฟ้า เป็นการขยายธุรกิจออกไปในด้านอื่นนอกจากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้า และมีโอกาสทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐที่ไปในทิศทางเดียวกันกับเทรนด์ธุรกิจโลก" นายเชิดศักดิ์ กล่าว
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานของปี 64 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564) มีรายได้รวม 2,470.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.0% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 1,777.37 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 135.40 ล้านบาท ขณะที่งวดไตรมาส 4/64 บริษัทมีรายได้รวม 600.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 471.99 ล้านบาท

ปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทสามารถรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการ โรงไฟฟ้าชีวมวลครบ 10 แห่ง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าชีวมวล CRB, MWE, MGP, TSG, PGP, SGP , PTG ,TPCH 5 , TPCH 1 และ TPCH 2 ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 106.8 เมกะวัตต์

12
PTT ขยับคาดราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปีนี้ 81-86 เหรียญฯ ค่าการกลั่น 5.4-6.4 เหรียญฯ
 
บมจ.ปตท. (PTT) คาดว่าราคาน้ำมันดิบในปี 65 จะเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 81-86 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และค่าการกลั่นอ้างอิงสิงคโปร์คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 5.4-6.4 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และ ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเมื่อเทียบกับปี 64 ในสายโอเลฟินส์ มีแนวโน้มทรงตัวจากการขึ้นใหม่ของกำลังการผลิต แม้ว่าอุปสงค์จะเริ่มฟื้นตัวตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ในขณะที่สายอะโรเมติกส์มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบและแนฟทา ทั้งนี้ส่วนต่างระหว่างผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์กับแนฟทามีแนวโน้มลดลงจากอุปทานใหม่ที่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ เศรษฐกิจโลกในปี 65 มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงจากปี 64 โดยเฉพาะครึ่งแรกของปี จากหลายประเทศกลับมาดำเนินมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ที่เข้มงวดขึ้นเมื่อเทียบกับปลายปี 64 การขาดแคลนปัจจัยการผลิต การชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานโลก ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และราคาพลังงานที่อยู่ในระดับสูง ความเข้มงวดของรัฐบาลจีนในการจำกัดการปล่อยสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ และธนาคารกลางหลายประเทศเริ่มใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือน มี.ค.

อย่างไรก็ตาม คาดว่าปัจจัยกดดันดังกล่าวจะคลี่คลายในช่วงครึ่งหลังของปี หลังหลายประเทศควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ จนนำไปสู่การทยอยผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางและเปิดประเทศมากขึ้น ประกอบกับความคืบหน้าในการกระจายวัคซีนได้เป็นวงกว้าง และความก้าวหน้าในการรักษาโรค ตลอดจนแรงสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากมาตรการทางการคลังจากภาครัฐ แม้เม็ดเงินมีแนวโน้มลดลงจากปีก่อน

ทั้งนี้ เศรษฐกิจโลกยังคงมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั้งสายพันธุ์ที่ระบาดในปัจจุบันและอาจเกิดขึ้นใหม่ในอนาคต ปัญหาภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานโลกที่ยืดเยื้อกว่าคาด ซึ่งอาจส่งผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้นมากภาวะการเงินโลกที่อาจตึงตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และปัญหาสภาพอากาศแปรปรวน ซึ่ง IMF ประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 65 ที่ระดับ 4.4% ขณะที่รายงานของ IHS คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันของโลกในปี 65 จะเพิ่มขึ้น 4.0 MMBD ไปอยู่ที่ระดับ 100.8 MMBD ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ราคากลุ่มผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ในปี 65 มีแนวโน้มทรงตัวเทียบกับปี 64 โดยคาดว่าราคา HDPE และ PP จะเคลื่อนไหวเฉลี่ยอยู่ในกรอบ 1,215-1,265 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน และ 1,290-1,340 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ตามลำดับ จากแผนอุปทานใหม่ในเอเชียที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 65 ซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็นไปตามแผนงานและส่วนที่ล่าช้ามาจากไตรมาส 4/64 แม้ว่าอุปสงค์จะเริ่มฟื้นตัวตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

ราคากลุ่มผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ในปี 65 มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าราคา BZ และ PX จะเคลื่อนไหวเฉลี่ยอยู่ในกรอบ 960-1,010 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน และ 980-1,030 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ตามลำดับ ตามคาดการณ์ต้นทุนน้ำมันดิบและแนฟทาที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามส่วนต่างระหว่างผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์กับแนฟทามีแนวโน้มลดลงจากไตรมาส 4/64 อุปทานใหม่ที่เพิ่มขึ้นในจีนและปริมาณสินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูงยังเป็นปัจจัยกดดัน แม้ว่าแนวโน้มอุปสงค์ในภูมิภาคเอเชียจะปรับตัวดีขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น

สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 65 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากปี 64 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายและเริ่มมีผลกระทบในวงจำกัด ภาคการท่องเที่ยวคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น การส่งออกสินค้ามีแนวโน้มขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา และการเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2565

นอกจากนี้ ยังมีแรงหนุนจากการใช้จ่ายของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง แต่คาดว่าเม็ดเงินจะปรับลดลงจากปีก่อน ทั้งจากงบประมาณและจากการกระตุ้นเพิ่มเติมผ่าน พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ในขณะที่ยังคงมีปัจจัยถ่วงจากความไม่แน่นอนของนโยบายที่อาจปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน แรงกดดันเงินเฟ้อด้านต้นทุน และภาระหนี้สะสมที่ทำให้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจมีแนวโน้มใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง

ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ณ เดือน ม.ค.65 ประมาณการแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 65 ว่าจะขยายตัวที่ 4%

อนึ่ง กลุ่ม ปตท. ได้จัดเตรียมแผนลงทุน 5 ปี (ปี 65-69) วงเงินรวมประมาณ 9.4 แสนล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจตามกรอบวิสัยทัศน์ใหม่ และร่วมผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ ประกอบด้วยการลงทุนในพลังงานอนาคต อาทิ พลังงานหมุนเวียน ระบบการกักเก็บพลังงาน ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ศึกษาการใช้พลังงานจากไฮโดรเจน และลงทุนนอกธุรกิจพลังงาน อาทิ ธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต พร้อมต่อยอดธุรกิจปิโตรเคมีสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ปรับธุรกิจน้ำมันให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ธุรกิจโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงระบบปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัล ตลอดจนการดำเนินการจำหน่ายการลงทุนในธุรกิจที่มีมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ธุรกิจถ่านหิน เป็นต้น

13
STP คาดขายหุ้น IPO เดินหน้าเข้าเทรด mai ใน Q2/65 หลัง ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง

นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.สหไทยการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (STP) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) แล้ว คาดว่า STP จะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในไตรมาส 2/65 โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 25,400,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น 25.4% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้ภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้

นายสุรนัย โรจน์วงศ์จรัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร STP เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจการพิมพ์บรรจุภัณฑ์กระดาษและสิ่งพิมพ์ทุกชนิด โดยมีบริการตั้งแต่การพัฒนาและออกแบบบรรจุภัณฑ์ ที่ได้มาตรฐาน และมีคุณภาพสูง ด้วยการพิมพ์งานสูงสุด 12 สี และมีบริการหลังพิมพ์ต่างๆ เช่น การเคลือบยูวี การปั๊มฟอยล์ทอง การปั๊มฟอยล์เงิน การประกบลูกฟูก การไดคัท เป็นต้น ด้วยวิสัยทัศน์ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่เติมเต็มความต้องการของลูกค้าด้วยคุณภาพ บริการ และกระบวนการผลิตที่เป็นมาตรฐานสากล

ทั้งนี้ เพื่อขยายการเติบโตรองรับภาพรวมอุตสาหกรรมที่ขยายตัว โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตอาหารคนและอาหารสัตว์เลี้ยงซึ่งเป็นฐานลูกค้ารายหลักของ STP มีแนวโน้มเติบโตและขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น จึงส่งผลดีต่อบริษัทฯ ให้มีคำสั่งซื้อที่ดีต่อเนื่องในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ การวางแผนขยายฐานลูกค้ารายใหม่ รองรับโลกยุคหลังโควิด บรรจุภัณฑ์จึงเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญเพื่อใช้ในการเพิ่มมูลค่าให้สินค้าและแบรนด์ อีกทั้ง ภาพรวมตลาดบรรจุภัณฑ์มีแนวโน้มเติบโต รับตลาดอีคอมเมิร์ซ และอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นต่อสินค้าอุปโภคและบริโภค

STP จึงวางกลยุทธ์ในการขยายโรงงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักร และขยายกำลังการผลิตที่เน้นการผลิตสินค้าบรรจุภัณฑ์อาหารที่สามารถสัมผัสอาหารโดยตรง (Direct Food Contact) เพื่อเปิดช่องทางการขยายฐานลูกค้าใหม่ รวมทั้ง การส่งมอบสินค้าให้ตรงเวลา มุ่งเน้นรับงานลูกฟูกที่เป็นกล่องพิมพ์ออฟเซ็ทที่มีคุณสมบัติด้านความสวยงามและความแข็งแรง รวมทั้ง การเจาะตลาดลูกค้าใหม่เพื่อสนับสนุนการใช้กำลังการผลิตที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ควบคู่การพัฒนาบุคลากร และเพิ่มศักยภาพความสามารถของพนักงาน มุ่งเน้นการปรับปรุงมาตรฐานการผลิตให้ได้ตามมาตรฐานสากลครบทุกขั้นตอนเพื่อสามารถรับงานผลิตสินค้ากลุ่ม Direct Food Contact ได้

STP มีวัตถุประสงค์การระดมทุน เพื่อนำเงินไปใช้ลงทุนขยายโรงงาน และลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเติม รวมทั้ง ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและการดำเนินการอื่นใดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกิจการ ซึ่งจะสนับสนุนให้ STP สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องตามกลยุทธ์ที่วางไว้ จากปัจจุบัน มีกำลังการผลิตรวม 10,000 ตันต่อปี ก้าวสู่ผู้ประกอบธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์ชั้นนำของประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และการบริหารงานอย่างมืออาชีพ

นายสาวสุวิมล กล่าวอีกว่า จุดเด่นของ STP คือผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนมีความน่าเชื่อถือและเชื่อมั่นจากลูกค้า ด้วยการก่อตั้งบริษัทฯ มายาวนานกว่า 50 ปี มีฐานลูกค้ารายใหญ่คือกลุ่มผู้ผลิตอาหารคนและอาหารสัตว์คิดเป็นสัดส่วนราว 94% ของรายได้ ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโต และการเพิ่มโอกาสไปยังฐานลูกค้ารายใหม่ ด้วยการลงทุนเพิ่มเครื่องจักรที่ทันสมัย และการเพิ่มมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล จึงมองว่า ภายหลังการระดมทุน จะยิ่งเพิ่มความพร้อมในการขยายตลาดดังกล่าวนี้ ด้วยฐานทุนที่แข็งแกร่งขึ้น

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 61-63) STP มีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 352.2 ล้านบาท 370.2 ล้านบาท และ 440.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 5.1% ในปี 62 และ 19.0% ในปี 63 โดยหลักเป็นผลมาจากลูกค้ารายใหญ่รายเดิม ซึ่งส่วนมากเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารทะเลบรรจุกระป๋องและอาหารทะเลแปรรูป ได้เพิ่มยอดสั่งผลิตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนกำไรสุทธิในปี 61-63 ที่ 63.2 ล้านบาท 59.0 ล้านบาท และ 95.4 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ 35.4% 36.1% และ 39.9% ตามลำดับ เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และก่อให้เกิดการประหยัดเนื่องจากขนาด (Economies of Scale)

รายได้งวด 9 เดือนแรกปี 64 อยู่ที่ 431.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 337.0 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 97.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 69.7 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้น 39.7% อัตราส่วนกำไรสุทธิ 22.7%

14
ภรัณยา รุจนพรพจี ขายหุ้น TKS ออก 0.6273% เข้าถือ SABUY เพิ่ม 0.1244%

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มาหุ้นของ บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) โดยนางสาว ภรัณยา รุจนพรพจี ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา คิดเป็น 0.1244% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา คิดเป็น 5.0869% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

และ ได้รับแบบรายงานการจำหน่ายหุ้นของ บมจ.ที.เค.เอส. เทคโนโลยี (TKS) โดยนางสาว ภรัณยา รุจนพรพจี ซึ่งเป็นการจำหน่าย เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย คิดเป็น 0.6273% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย คิดเป็น 4.5432% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ



โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ซื้อหลักทรัพย์แปลงสภาพ APURE จำนวน 1.4245% รวมถือ 16.2924%

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มาหลักทรัพย์แปลงสภาพของ บมจ.อกริเพียว โฮลดิ้งส์ (APURE) โดย นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา คิดเป็น 1.4245% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา คิดเป็น 16.2924% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

นักวิเคราะห์ทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ และสถาบันการเงินชั้นนำ เยี่ยมชมโรงงานกลุ่มบริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ
 
นักวิเคราะห์ทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ และสถาบันการเงินชั้นนำ เยี่ยมชมโรงงานกลุ่มบริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ
นักวิเคราะห์ทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ และสถาบันการเงินชั้นนำได้เข้าเยี่ยมชมกิจการของกลุ่มบริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ อาทิ กระบวนการผลิตกระดาษ แปลงปลูกต้นกระดาษ โรงผลิตไฟฟ้าของ NPS ซึ่งเป็น โรงไฟฟ้าชีวมวลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และสวนอุตสาหกรรม 304 พร้อมรับฟังนโยบายและแนวทางการดำเนินธุรกิจในอนาคต เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการและนักลงทุน โดยมี คุณกฤตย์ดิศร กรเกศกมล CFO บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) - NPS ให้การต้อนรับ

15
STA-STGT กอดคอร่วง โบรกฯระบุกำไร Q4/64 ต่ำกว่าคาดเหตุราคาถุงมือยางตก

หุ้น STA,STGT ร่วง เมื่อเวลา 10.42 น.นำโดย STA ลบ 5.47% หรือ 1.75 บาท มาที่ 30.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 287.72 ล้านบาท จากราคาเปิด 31.00 บาท ราคาสูงสุด 31.25 บาท ราคาต่ำสุด 29.75 บาท

STGT ลบ 3.36% หรือ 1.00 บาท มาที่ 28.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 344.42 ล้านบาท

บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT) รายงานกำไรไตรมาส 4/64 อ่อนตัวเหลือเพียง 1.8 พันล้านบาท -78% YoY,-59% QoQ ต่ำกว่าตลาดคาด จากราคาถุงมือที่ปรับลดลง ปริมาณขายเพิ่มขึ้นมาเป็น 7.6 พ้นล้านชิ้น +6% YoY, 5.5% QoQ ซึ่งในช่วงไตรมาส 3/64 เริ่มมีปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้ส่งสินค้าได้ล้าช้า ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยปรับลดลงเหลือ USD34/1,000 ชิ้น -43% YoY, -26% QoQ จาก supply ในตลาดที่เพิ่มมากขึ้น เราประเมินราคาขายเฉลี่ยเริ่มทรงตัวที่ระดับ ราว USD30-35/1,000 ชิ้น คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 37 บาท

ขณะที่ บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/64 ที่ 1.6 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 50% QoQ และ 70.7% YoY โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 2.84 หมื่นล้านบาท Flat QoQ และสูงขึ้น 8.2% YoY และ รายงานกำไรสุทธิปี 64 ที่ 1.58 หมื่นล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 66.3% YoY แต่ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ที่ 1.72 หมื่นล้านบาท เนื่องจากอัตราการทำกำไรลดลงจากช่วงไตรมาส 3/64 จาก ASP ที่ลดลงของกลุ่มถุงมือยาง อย่างไรก็ดี Gross Margin รวมปี 64 อยู่ที่ 32.2% ปรับตัวสูงขึ้นจาก 28.9% ในปี 63 ยังคงแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 42.60 บาทต่อหุ้น

หน้า: [1] 2 3 ... 5